ทำเลไหนดี โครงการไหนเด่นกับการเลือกซื้อคอนโดภูเก็ตและอพาร์ทเม้นท์ ภูเก็ตถือเป็นพื้นที่ตากอากาศระดับโลกที่มีบ้านพักตากอากาศระดับหรู คอนโดมิเนียม (Condominium) และอพาร์ทเม้นท์ (Apartment) สำหรับซื้อขายมากมาย บ้านพักตากอากาศระดับหรูในภูเก็ตสามารถเทียบได้กับบ้านในระดับเดียวกันในแถบเมดิเตอร์เรเนียนและแคริบเบียนแต่มีราคาที่ต่ำกว่ามาก ตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นที่สุดในเอเชีย โดยตลาดมีการขยายตัวตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2533 พร้อมไปกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในภูเก็ต ภูเก็ตมีการวางตำแหน่งทางด้านการตลาดคอนโดมิเนียมที่เหมาะสม อีกทั้งมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกและให้ความบันเทิงระดับโลก และมีสนามบินนานาชาติซึ่งสามารถเดินทางเข้าถึงได้โดยสะดวก นักลงทุนจำนวนมากจึงเลือกที่จะลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตเนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราแบบตะวันตกกับวิถีชีวิตแบบประเทศแถบร้อนชื้น ซีบีอาร์อี (CBRE) ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดการขาย-ซื้อคอนโดภูเก็ต รวมไปถึงอพาร์ทเม้นท์ที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว จึงได้เปิดสำนักงานสาขาภูเก็ตขึ้นในปี พ.ศ. 2547 พร้อมตั้งทีมงานขายที่ประกอบไปด้วยพนักงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดคอนโดมิเนียม / อพาร์ทเม้นท์ในภูเก็ต ทีมงานของเรามีความรอบรู้เกี่ยวกับตลาดนี้อย่างกว้างขวาง สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ซื้อและนักลงทุนที่สนใจซื้อคอนโดภูเก็ต รายชื่อคอนโดภูเก็ตสำหรับขาย ข้อเสนอพิเศษคอนโดภูเก็ต   ทำเลที่ตั้งของคอนโดมิเนียมในภูเก็ต โครงการพัฒนาคอนโดมิเนียม (Condominium) และอพาร์ทเม้นท์ (Apartment) ในภูเก็ตมีที่ตั้งหลากหลายทั่วทั้งเกาะ แต่เดิมชายฝั่งตะวันตกเป็นศูนย์กลางการพัฒนาโดยปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมหลายแห่งตั้งอยู่ และเนื่องจากที่ดินติดทะเลด้านชายฝั่งตะวันตกถูกจับจองเกือบหมด ทำให้ชายฝั่งด้านตะวันออกซึ่งอดีตเคยถูกมองข้ามไปกลับมาได้รับความสนใจโดยมีโครงการที่มีชื่อหลายแห่งเกิดขึ้นใหม่ในบริเวณนี้  (ดูแผนที่ภูเก็ต)   1. คอนโดมิเนียมภูเก็ต บริเวณพื้นที่ราบไม่ติดชายทะเล (Inland) โครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบไม่ติดชายทะเลบนตัวเกาะ มักจะเป็นโครงการระดับต้นซึ่งเน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น โดยโครงการหลายแห่งตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมสันทนาการ เช่น ในตัวเมืองภูเก็ต เป็นต้น   2. ชายฝั่งตะวันออก (ทิศเหนือ) ทำเลชายฝั่งตะวันออกด้านทิศเหนือของเกาะภูเก็ต ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของอ่าวพังงา และสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง อ่าวกุ้ง อ่าวปอ และแหลมยามู พื้นที่นี้จึงกลายเป็นพื้นที่ที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูหลายแห่งตั้งอยู่ในบริเวณนี้ เช่น ตะวันวิว และบ้านยามู  คอนโดภูเก็ตชายฝั่งตะวันออก (ทิศเหนือ) บ้านยามู อลันนา ยามู 3. คอนโดมิเนียมภูเก็ต ชายฝั่งตะวันออก (ทิศใต้) รูปแบบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทางชายฝั่งตะวันออกด้านทิศใต้ของเกาะภูเก็ต ต่างจากฝั่งตะวันตก โดยจะเน้นไปที่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับสูง และคอนโดมิเนียมระดับหรู ลักซ์ชัวรี่ ซึ่งมีอยู่มากมายในบริเวณนี้ การซื้อคอนโดภูเก็ต ในทำเลนี้มีข้อได้เปรียบด้านการเดินทางเพราะอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตมากนัก อีกทั้งยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง อ่าวภูเก็ต แหลมพันวา และเกาะสิเหร่ อีกด้วย   4. ชายฝั่งตะวันตก (ทิศเหนือ) ทำเลชายฝั่งตะวันตกด้านทิศเหนือของเกาะภูเก็ต ครอบคลุมพื้นที่ หาดไม้ขาว หาดในทอน และหาดในยาง และเนื่องด้วยพื้นที่ที่มีมากกว่าทำเลอื่น ๆ อีกทั้งยังใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ตมากที่สุด โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับหรูหลายแห่งจึงเกิดขึ้นในทำเลนี้ ให้ได้เลือก ซื้อคอนโดภูเก็ต อย่างหลากหลาย คอนโดภูเก็ตชายฝั่งตะวันตก (ทิศเหนือ) บ้านไม้ขาว มาลัยวนา เรสซิเด้นท์ 5. ชายฝั่งตะวันตก (กลาง) ทำเลนี้ประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง หาดบางเทา หาดสุรินทร์ และหาดกมลา โดยเฉพาะหาดกมลา และหาดบางเทา ที่นอกจากจะเป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีบีชคลับและร้านอาหารชื่อดัง เช่น ซาน่าบีชคลับ เอซคิว บีชคลับ และ คาเฟ่เดลมาร์ และยังเป็นพื้นที่ที่นิยมของโครงการพัฒนาคอนโดมิเนียม เช่น ทวินปาล์ม เรสซิเด้นท์ มอนท์อาซัวร์ และอังสนา บีชฟร้อนท์ เรสซิเด้นซ์ คอนโดภูเก็ตชายฝั่งตะวันตก (กลาง)  ทวินปาล์ม เรสซิเด้นท์ มอนท์อาซัวร์ อังสนา บีชฟร้อนท์ เรสซิเด้นซ์ 6. ชายฝั่งตะวันตก (ทิศใต้) ชายฝั่งตะวันตกทางด้านทิศใต้ของเกาะภูเก็ต ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูเก็ต บริเวณนี้ครอบคลุมตั้งแต่ หาดป่าตอง หาดกะรน หาดกะตะ ไปจนถึงหาดกะตะน้อย ปัจจุบันทำเลนี้มีการเติบโตของโครงการคอนโดมิเนียม และอพาร์ทเม้นท์ โดยมีโครงการตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับลักซ์ซัวรี่ คอนโดภูเก็ตชายฝั่งตะวันตก (ทิศใต้) เดอะวิว เดอะเด็ค กะตะร็อค 7. ชายฝั่งทางใต้ ระยะทางจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตและสนามกอล์ฟทำให้ชายฝั่งทางใต้มีการพัฒนาที่ช้า และมีพื้นที่ที่ได้รับการพัฒนาอยู่น้อยหากเปรียบเทียบกับชายฝั่งด้านตะวันตก โครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในพื้นที่ชายฝั่งด้านใต้จะเป็นคอนโดมิเนียมระดับกลาง สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณนี้ได้แก่ หาดในหาน อ่าวฉลอง และหาดราไวย์ คอนโดภูเก็ตชายฝั่งทางใต้ วินแดมม์ ในหาน แซทเทอร์เดย์ หากคุณกำลังมองหาคอนโดริมชายหาดภูเก็ต ลองดู 11 คอนโดติดชายหาดสำหรับขายในภูเก็ตที่ได้รับความนิยมสูงสุด ราคาและหมวดหมู่คอนโดมิเนียมในภูเก็ต คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ ในภูเก็ตสามารถแบ่งเป็นระดับได้ดังนี้ 1. คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ระดับหรูลักซ์ชัวรี่ (Luxury) คอนโดมิเนียมระดับหรูในภูเก็ต มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไปต่อหนึ่งยูนิต คอนโดมิเนียมระดับหรูในภูเก็ตส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีทิวทัศน์ของทะเลและอยู่ใกล้ชายหาด โดยมากจะตั้งอยู่ในบริเวณที่มีปริมาณความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยน้อยซึ่งทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง คอนโดมิเนียมระดับหรูจะได้รับการบริหารโดยบริษัทระดับมืออาชีพ หรือโดยโรงแรมในบางกรณี พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย ห้องพักชั้นบนสุด (เพนท์เฮ้าส์) ในโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูหลายแห่งมีสระว่ายน้ำส่วนตัว เช่น บ้านไม้ขาว และอันดารา เรสซิเดนซ์ 2. คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ระดับสูง (High-end) คอนโดมิเนียมระดับสูงในภูเก็ตมีราคาตั้งแต่ 15 ล้านบาท จนถึง 30 ล้านบาทต่อหนึ่งยูนิต คอนโดมิเนียมระดับสูงในภูเก็ตส่วนมากมีทิวทัศน์ของทะเลที่ดี แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ใกล้กับชายหาด คอนโดมิเนียมระดับสูงจะได้รับการบริหารโดยบริษัทระดับมืออาชีพ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกาย 3. คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ระดับกลาง (Mid-range) คอนโดมิเนียมระดับกลางในภูเก็ตมีราคาตั้งแต่ 5 ล้านบาท จนถึง 15 ล้านบาทต่อหนึ่งยูนิต คอนโดมิเนียมระดับกลางส่วนใหญ่จะไม่มีทิวทัศน์ของทะเล แต่จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาด 4. คอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ระดับล่าง (Entry-level) คอนโดมิเนียมระดับล่างในภูเก็ต มีราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทต่อหนึ่งยูนิต ตัวเลือกในการซื้อคอนโดภูเก็ต 1. คอนโดแบบขายต่อ (คอนโดมือสอง) คอนโดแบบขายต่อเป็นคอนโดมือสองที่ถูกเสนอขายโดยผู้ขายที่ซื้อโดยตรงจากผู้พัฒนาโครงการมาแต่แรกเริ่ม อสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้อาจอยู่ในรูปแบบระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (ออฟ-แพลน) หรือสร้างแล้วเสร็จ ในปัจจุบันคอนโดแบบขายต่อ (คอนโดมือสอง) ถือว่าเป็นตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก 2. คอนโดที่สร้างแล้วเสร็จ คอนโดที่สร้างแล้วเสร็จและพร้อมให้เข้าชม ผู้ซื้อคอนโดประเภทนี้จะไม่มีความเสี่ยงจากความล่าช้าหรือความล้มเหลวงของผู้ดำเนินโครงการเนื่องจากโครงการได้สร้างแล้วเสร็จ และผู้ซื้อสามารถตรวจสอบคุณภาพของวัสดุ การตกแต่ง ออกแบบได้ 3. คอนโดที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง คอนโดที่อยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้างเป็นคอนโดที่ขายขณะที่อยู่ในแผนการก่อสร้าง หรือระหว่างดำเนินการก่อสร้าง เพื่อลดความเสี่ยงจากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ผู้ซื้อควรซื้อจากผู้พัฒนาโครงการที่เชื่อถือได้ โครงการที่มีคุณภาพส่วนใหญ่จะมีห้องจัดแสดงเพื่อให้ลูกค้าเข้าชมได้ การขายอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างส่วนใหญ่มักมีการเสนอส่วนลดให้ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับอสังหาริมทรัพย์แบบสร้างแล้วเสร็จ 4. คอนโดเพื่อการลงทุน มีโครงการหลายแห่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุนโดยมีการรับประกันค่าเช่า อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนมีข้อจำกัดในการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของเนื่องจากบ้านพักตากอากาศนั้นจะอยู่ในแผนการปล่อยเช่า ระดับของรายได้ที่ได้จะคิดเป็น 5% ถึง 8% ต่อระยะเวลา 1 ถึง 6 ปีและให้เจ้าของเข้าใช้ได้ไม่เกินปีละ 45 ถึง 60 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต เงื่อนไขการชำระเงินของอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต คอนโดมิเนียมในภูเก็ตส่วนใหญ่จะถูกขาย “ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง” หรือ “สร้างแล้วเสร็จบางส่วน” ผู้ซื้อคอนโดภูเก็ตมักถูกเรียกให้ชำระค่าจองซึ่งจะเป็นการประกันทรัพย์สินที่จะถูกถอนออกภายหลังจากการเปิดตลาด จากนั้นจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง (โดยปกติประมาณ 30 วัน) เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสารและสัญญาทางกฎหมายให้แล้วเสร็จก่อนทำการชำระเงินงวดแรกในวันเซ็นต์สัญญา หลังจากนั้นการชำระเงินจะถูกแบ่งเป็นงวดขึ้นอยู่กับระยะเวลาก่อสร้าง ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ในวันที่เซ็นต์สัญญา: 20% ถมที่ดินหรือตอกเสาเข็มแล้วเสร็จ: 20% ตั้งเสา ปูพื้นและโครงหลังคาแล้วเสร็จ: 20% ตกแต่งภายนอก รวมไปถึงประตูด้านนอกอาคารและหน้าต่างแล้วเสร็จ: 20% การตกแต่งขั้นสุดท้ายและรับโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์: 20% นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนาโครงการบางแห่ง สำหรับคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ระดับกลางและสูง ยังมีข้อเสนอให้ลูกค้า สามารถกู้ไฟแนนซ์ได้โดยตรงกับทางโครงการในระยะเวลาสูงสุด 5 ปี กู้สูงสุดได้ประมาณ 50% ของราคาขายโดยดอกเบี้ยจะใกล้เคียงกับธนาคารพานิชย์ของไทย ค่าใช้จ่ายเงินกองทุน (Sinking Fund) ในโครงการบ้านพักตากอากาศหรือคอนโดมิเนียมใหม่ เจ้าของแต่ละคนจะชำระเงินก้อนแรกเข้าเป็นกองทุนในวันที่ทำการโอนกรรมสิทธิ์ของอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ โดยเงินกองทุนดังกล่าวจะใช้เป็นค่าบริหาร ค่าบำรุงรักษาทรัพย์สินส่วนกลางในอนาคตหากมีการใช้จ่ายเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ ค่าบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง ค่าบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางมักจะประกอบไปด้วย ค่ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ค่าบำรุงรักษาและจัดการระบายน้ำในพื้นที่สวนส่วนกลาง ค่าทำความสะอาดและบำรุงรักษาพื้นที่ส่วนกลาง ค่าจัดการสำนักงานและพนักงาน ค่าประกัน ค่าไฟฟ้าและน้ำประปาในพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงค่ากำจัดน้ำเสีย ปลวกและแมลงรบกวน เป็นต้น ในโครงการบ้านพักตากอากาศ หรือคอนโดมิเนียมหลายแห่งในภูเก็ต จะมีบริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์คอยจัดการดูแลสิ่งปลีกย่อยดังกล่าว โดยบริษัทฯจะรายงานโดยตรงต่อคณะกรรมการของผู้เป็นเจ้าของในเรื่องเกี่ยวกับการจัดการและสถานะทางการเงินของโครงการ การถือครองกรรมสิทธิ์ในคอนโดมิเนียม ประเทศไทยมีการนิยามเฉพาะสำหรับคอนโดมิเนียมกับอพาร์ทเม้นท์แตกต่างกัน แม้ว่าในส่วนอื่นของโลกจะให้คำจำกัดความทั้งสองสิ่งเป็นสิ่งเดียวกันก็ตาม ชาวต่างชาติสามารถซื้อและถือครองสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ของไทยผ่านโครงสร้างกรรมสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ที่ดินได้หลายรูปแบบ รูปแบบการถือสิทธิ์ที่ใช้ทั่วไปมีสามแบบคือ การถือกรรมสิทธิ์แบบเช่า การถือครองกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ และการถือครองกรรมสิทธิ์สมบูรณ์โดยบริษัทสัญชาติไทย คำจำกัดความของคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเม้นท์ในประเทศไทย 1. คอนโดมิเนียม: เป็นอาคารที่มีหลายห้องซึ่งให้กรรมสิทธิ์การถือครองโดยสมบูรณ์แก่เจ้าของแต่ละห้อง ส่วนที่ดินและพื้นที่ส่วนกลางถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทุกคนร่วมกัน ในบางประเทศจะเรียกว่าการถือครองกรรมสิทธิ์อาคารชุด (strata title)  คอนโดมิเนียมจะจดทะเบียนไว้ที่กรมที่ดินและแต่ละห้องจะมีหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (Title deed) เป็นของตนเอง  ชาวต่างชาติจะได้รับอนุญาตให้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ได้ในสัดส่วนไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดของอาคารคอนโดมิเนียมนั้น ๆ 2. อพาร์ทเม้นท์: เป็นอาคารพักอาศัยซึ่งถูกถือกรรมสิทธิ์โดยเจ้าของสิทธิ์เพียงบุคคลเดียว ห้องแต่ละห้องจะถูกปล่อยเช่าเป็นระยะเวลา 30 ปี หรือตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเช่าซึ่งจะต้องลงทะเบียนเช่าไว้ที่กรมที่ดินด้วย