ค้นหาทั้งเว็บไซต์

ลืมรหัสผ่าน

อีเมลพร้อมคำแนะนำในการตั้งรหัสผ่านใหม่ของคุณได้ถูกส่งไปยัง
false
หากคุณไม่ได้รับอีเมล โปรดตรวจสอบโฟลเดอร์ขยะ/สแปมของคุณ หรือคลิกปุ่ม "ส่งอีเมลอีกครั้ง" ด้านล่าง
กลับไปที่
ยังไม่มีบัญชีผู้ใช้งานใช่ไหม
พาณิชยกรรม

เงื่อนไขโดยทั่วไปสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรม

14 กันยายน 2020
เงื่อนไขสัญญาเช่าและสัญญาขายโดยทั่วไปสำหรับที่ดินเพื่อการประกอบอุตสาหกรรมและหน่วยอุตสาหกรรม 1. ข้อปฏิบัติสำหรับการทำสัญญาเช่า เงื่อนไขสัญญาเช่า สัญญาเช่าโดยปกติแล้วจะมีอายุ 3 ปี โดยสัญญาเช่าใดๆ ที่มีอายุเกินกว่า 3 ปี จำเป็นต้องจดทะเบียนไว้กับกรมที่ดิน โดยจะคิดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเป็นมูลค่า 1% ของราคาที่จ่ายจริงตามสัญญาเช่าซึ่งต้องทำการจ่ายเมื่อมีการจดทะเบียนสัญญา โดยผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้   สัญญาเช่า สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในประเทศไทยจะถูกร่างขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามสัญญาเช่าจะต้องถูกจดทะเบียนไว้ที่กรมที่ดิน จึงต้องมีการแปลสัญญาเช่าเป็นภาษาไทยเพื่อใช้ในการจดทะเบียนด้วย   ค่าเช่า ค่าเช่าสำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมคำนวณในหน่วยบาทไทย โดยคิดอัตราตามพื้นที่ในหน่วยตารางเมตรต่อเดือน ตามปกติแล้วค่าเช่าจะถูกจ่ายล่วงหน้าเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลักปฏิบัติทั่วไปคือทีการจ่ายค่ามัดล่วงหน้าเป็นจำนวน 3 เดือนและจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าอีก 1 เดือนก่อนการเซ็นสัญญาเช่า โดยทั่วไปแล้วค่าเช่าจะไม่รวมในค่าธรรมเนียมการจัดการ ภาษีต่างๆ เอกสารสัญญาเช่า และข้อตกลงการให้บริการ   เงินมัดจำ เงินมัดจำมูลค่าเท่ากับค่าเช่าจำนวน 3 เดือน อ้างอิงจากจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่าจะถูกจ่ายในวันเซ็นสัญญาเช่า   ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะแตกต่างออกไปตามแต่ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้กำหนด แต่มักจะประกอบไปด้วย ค่าธรรมเนียมการจัดการนิคมอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม หากอาคารตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมหรือสวนอุตสาหกรรมจะต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมการจัดการแก่ผู้จัดการนิคมเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาถนนและสาธารณูปโภคพื้นฐาน ประกันภัยทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่ต่อรองได้แต่ส่วนมากผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้ ค่าซ่อมบำรุง ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่ายรายวัน ภาษีโรงเรือน เป็นภาษีอาคารส่วนท้องถิ่นและมีมูลค่า 12.5% ของค่าเช่า 2. ข้อปฏิบัติสำหรับการขาย ผู้ขายส่วนมากนิยมที่จะขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรม โกดังสินค้าหรือโรงงานในรูปแบบ “ไม่มีการเปลี่ยนแปลง” การขายจะถูกคำนวณในรูปเงินบาทไทย ข้อปฎิบัติทัวไปคือการแบ่งการชำระเงินออกเป็น 3 งวด ดังนี้ 10% ณ วันที่ทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding - MOU) หรือแบบเสนอราคา (Offer Letter) โดยถือว่าบริษัทได้รับอนุญาตจาก กนอ. และ/หรือการรับรองจาก BOI ในการซื้อที่ดิน ในกรณีที่บริษัทไม่ได้รับอนุญาต ให้ทำการคืนเงินมัดจำแก่ผู้เสนอซื้อ 20% ณ วันที่เซ็นสัญญาและ จำนวนเงินที่เหลือ ณ วันโอนสิทธิ์ - อสังหาริมทรัพย์ที่มีบริษัทเป็นเจ้าของจำเป็นต้องชำระภาษี 3 ประเภทคือ ค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะ และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย - อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของโดยบุคคลธรรมดา จำเป็นต้องชำระภาษี 3 ประเภทคือ ค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะหรืออากรแสตมป์ และ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย) ผู้ขายส่วนมากมักเป็นผู้รับผิดชอบภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในขณะที่ค่าธรรมเนียมการโอนจะแบ่งกันรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (สามารถต่อรองได้)  
Image | CBRE

เงื่อนไขสัญญาเช่าและสัญญาขายโดยทั่วไปสำหรับที่ดินเพื่อการประกอบอุตสาหกรรมและหน่วยอุตสาหกรรม

1. ข้อปฏิบัติสำหรับการทำสัญญาเช่า

  • เงื่อนไขสัญญาเช่า
    สัญญาเช่าโดยปกติแล้วจะมีอายุ 3 ปี โดยสัญญาเช่าใดๆ ที่มีอายุเกินกว่า 3 ปี จำเป็นต้องจดทะเบียนไว้กับกรมที่ดิน โดยจะคิดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเป็นมูลค่า 1% ของราคาที่จ่ายจริงตามสัญญาเช่าซึ่งต้องทำการจ่ายเมื่อมีการจดทะเบียนสัญญา โดยผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้
     
  • สัญญาเช่า
    สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในประเทศไทยจะถูกร่างขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ อย่างไรก็ตามสัญญาเช่าจะต้องถูกจดทะเบียนไว้ที่กรมที่ดิน จึงต้องมีการแปลสัญญาเช่าเป็นภาษาไทยเพื่อใช้ในการจดทะเบียนด้วย
     
  • ค่าเช่า
    ค่าเช่าสำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมคำนวณในหน่วยบาทไทย โดยคิดอัตราตามพื้นที่ในหน่วยตารางเมตรต่อเดือน ตามปกติแล้วค่าเช่าจะถูกจ่ายล่วงหน้าเป็นเวลาหนึ่งเดือน หลักปฏิบัติทั่วไปคือทีการจ่ายค่ามัดล่วงหน้าเป็นจำนวน 3 เดือนและจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าอีก 1 เดือนก่อนการเซ็นสัญญาเช่า

    โดยทั่วไปแล้วค่าเช่าจะไม่รวมในค่าธรรมเนียมการจัดการ ภาษีต่างๆ เอกสารสัญญาเช่า และข้อตกลงการให้บริการ
     
  • เงินมัดจำ
    เงินมัดจำมูลค่าเท่ากับค่าเช่าจำนวน 3 เดือน อ้างอิงจากจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามสัญญาเช่าจะถูกจ่ายในวันเซ็นสัญญาเช่า
     
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
    ค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะแตกต่างออกไปตามแต่ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้กำหนด แต่มักจะประกอบไปด้วย
    • ค่าธรรมเนียมการจัดการนิคมอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม
      หากอาคารตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมหรือสวนอุตสาหกรรมจะต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมการจัดการแก่ผู้จัดการนิคมเพื่อเป็นค่าบำรุงรักษาถนนและสาธารณูปโภคพื้นฐาน
    • ประกันภัยทรัพย์สิน
      เป็นสิ่งที่ต่อรองได้แต่ส่วนมากผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนนี้
    • ค่าซ่อมบำรุง
      ผู้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จะเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่ายรายวัน
    • ภาษีโรงเรือน
      เป็นภาษีอาคารส่วนท้องถิ่นและมีมูลค่า 12.5% ของค่าเช่า

เงื่อนไขโดยทั่วไปสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรม

2. ข้อปฏิบัติสำหรับการขาย

ผู้ขายส่วนมากนิยมที่จะขายที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรม โกดังสินค้าหรือโรงงานในรูปแบบ “ไม่มีการเปลี่ยนแปลง”

การขายจะถูกคำนวณในรูปเงินบาทไทย

ข้อปฎิบัติทัวไปคือการแบ่งการชำระเงินออกเป็น 3 งวด ดังนี้

  • 10% ณ วันที่ทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding - MOU) หรือแบบเสนอราคา (Offer Letter) โดยถือว่าบริษัทได้รับอนุญาตจาก กนอ. และ/หรือการรับรองจาก BOI ในการซื้อที่ดิน ในกรณีที่บริษัทไม่ได้รับอนุญาต ให้ทำการคืนเงินมัดจำแก่ผู้เสนอซื้อ
  • 20% ณ วันที่เซ็นสัญญาและ
  • จำนวนเงินที่เหลือ ณ วันโอนสิทธิ์
- อสังหาริมทรัพย์ที่มีบริษัทเป็นเจ้าของจำเป็นต้องชำระภาษี 3 ประเภทคือ
  • ค่าธรรมเนียมการโอน
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ และ
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของโดยบุคคลธรรมดา จำเป็นต้องชำระภาษี 3 ประเภทคือ
  • ค่าธรรมเนียมการโอน
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะหรืออากรแสตมป์ และ
  • ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย)
ผู้ขายส่วนมากมักเป็นผู้รับผิดชอบภาษีธุรกิจเฉพาะและภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในขณะที่ค่าธรรมเนียมการโอนจะแบ่งกันรับผิดชอบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (สามารถต่อรองได้)
 
แชร์
คัดลอกลิงก์
แชร์ผ่านลิงก์