ลงทุนอย่างชาญฉลาดในไทย ด้วยการซื้อหรือปล่อยเช่าโรงแรมกับ CBRE
การซื้อหรือปล่อยเช่าโรงแรมและรีสอร์ทในไทย
ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว
ประเทศไทยถูกขนานนามว่าเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก มีเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคัก เช่น กรุงเทพฯ พัทยา และเชียงใหม่ ไปจนถึงเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงระดับโลกและเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ตและสมุย นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นเมืองหลวงด้านการท่องเที่ยวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการผสมผสานการต้อนรับที่อบอุ่นและวัฒนธรรมประเพณี อาหารและเครื่องดื่มรสเลิศ การท่องเที่ยวยามค่ำคืน และสถานที่พักผ่อนอันน่าประทับใจทุกรูปแบบตั้งแต่แบบประหยัดไปจนถึงหรูหรา ตั้งแต่แบบบูติกไปจนถึงที่พักที่เน้นเรื่องสุขภาพ สำหรับด้านการบริการ โรงแรมในภูเก็ตและเกาะสมุยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวหลายล้านคนจากทั่วโลกในแต่ละปี ขณะที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศต่างก็มีความกระตือรือร้นที่จะซื้อโรงแรมในไทยและมองหาโรมแรมที่กำลังประสบปัญหาและต้องการเสนอขายในไทย
การท่องเที่ยวและการลงทุนของประเทศไทยในภาคการบริการ
ปัจจุบันมีโอกาสมากมายสำหรับการลงทุน เนื่องจากมีการขายและให้เช่าโรงแรมมากขึ้นในตลาด แม้ว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้จะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม แต่ซีบีอาร์อีเชื่อมั่นในศักยภาพในระยะยาวของภาคธุกิจนี้ เนื่องจากประเทศไทยมีรากฐานด้านการท่องเที่ยวและการบริการที่แข็งแกร่งรวมถึงความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังเศรษฐกิจหยุดชะงักทั้งในประเทศและทั่วโลกในช่วงเวลาที่ผ่านมา การซื้อโรงแรมในไทยรวมถึงโรมแรมที่กำลังประสบปัญหาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากการผสมผสานคุณค่าและเสน่ห์แบบไทยที่นำเสนอให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอาจสามารถผลักดันให้เกิดผลตอบแทนในระดับสูงแก่ผู้ที่มีโอกาสเป็นนักลงทุน เทียบกับอสังหาริมทรัพย์ในตลาดสำคัญในเอเชียแปซิฟิก เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ที่มีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าในอดีต
ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 2564
ก่อนเกิดโรคระบาด ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 39 ล้านคนในปี 2562 โดยสูงขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสูงขึ้นเฉลี่ย 9% ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวกว่า 65% มาจากเอเชียตะวันออก รองลงมาคือชาวยุโรป (18%) และทวีปอื่น ๆ และถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางระหว่างประเทศและการเดินทางในประเทศตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เช่น วิกฤตการเงินโลก โรคซาร์ส หรือโรคไข้หวัดนก แต่อัตราค่าที่พักรวมถึงอัตราการเข้าพักในไทยสามารถฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาที่สั้นกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคหลังเกิดการหยุดชะงัก ส่งผลให้มีความมั่นคงมากกว่าในสายตาของนักลงทุน และคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจะยังคงเกิดขึ้นเช่นนี้ต่อไปซึ่งจะช่วยส่งเสริมความต้องการเข้าซื้อโรงแรมที่มีอยู่สูง
การจำแนกประเภทโรงแรม / รีสอร์ท และการทำความเข้าใจทรัพย์สินประเภทโรงแรม
การขายโรงแรมในไทย สามารถจำแนกได้เป็นประเภทต่อไปนี้ตาม 'ระดับราคา':
- ราคาประหยัด
- ราคาปานกลาง
- ราคาปานกลางค่อนข้างสูง
- ราคาสูง
- ราคาสูงค่อนข้างหรู
- ราคาหรู
รายได้เฉลี่ยต่อวันจากห้องพักที่ขายได้ (ADR): 1,919 บาท | ลดลง 14.8% ต่อปี
อัตราการเข้าพักในไตรมาส 3 ปี 2564 (%): 21.6%%) | เพิ่มขึ้น 7.9% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม การซื้อหรือให้เช่าโรงแรมในไทย (รวมถึงรีสอร์ทหรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์) ให้สำเร็จนั้นไม่ได้อาศัยเพียงมุมมองในด้านการเงินเท่านั้น นักลงทุนจำเป็นต้องมีความเข้าใจในเชิงวิเคราะห์ในเรื่องปัจจัยภายนอกทั้งภาพรวมและตลาดย่อย ศักยภาพในการทำกำไรของสินทรัพย์ และแน่นอนว่ารวมถึงความเข้าใจในตัวสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมในประเทศไทยที่สร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรืออยู่ในขั้นวางแผน แผนกธุรกิจโรงแรม ซีบีอาร์อี ประเทศไทย สามารถให้ความช่วยเหลือนักลงทุนในเรื่องนี้ได้
ร่วมงานกับแผนกธุรกิจโรงแรมของซีบีอาร์อี
ด้วยความรู้เกี่ยวกับตลาดที่ครอบคลุมมากที่สุด ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และประสบการณ์แบบเจาะลึกในการทำงานร่วมกับนักพัฒนา นักลงทุน เจ้าของ และผู้ประกอบการโรงแรม แผนกธุรกิจโรงแรม ซีบีอาร์อี ประเทศไทย มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรมที่จะช่วยด้านการขาย ให้เช่า และซื้อโรงแรมในไทย รวมถึงโรมแรมที่กำลังประสบปัญหา รีสอร์ทหรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพเกี่ยวกับโรงแรมและการบริหารจัดการโรงแรมในทุกด้าน
เราพร้อมที่จะร่วมงานกับคุณ กรุณาติดต่อเรา